Eclipse เป็นภาพยนตร์ภาคต่อภาคที่สาม ของวรรณกรรมชุด “The Twilight Saga” ที่ขึ้นแท่นเป็นวรรณกรรมขายดีไปอีกเรื่องของหนังสือชุดนี้ เนื้อหาในหนังสือชุดเล่าถึงรายละเอียดที่เข้มข้นมากกว่าสองภาคแรกยิ่งขึ้น และเนื้อความในตัวหนังที่ดัดแปลงมาฉายให้เหล่าสาวกได้ชมนั้นก็เข้มข้นไม่แพ้ในวรรณกรรมเช่นกัน
Eclipse เล่าถึงเรื่องราวที่ต่อจาก New Moon ซึ่งมีเนื้อความที่เจาะลึกลงไปอีก ตามความคิดและความรู้สึกของ Bella ที่มีใจให้แก่ Vampire หนุ่ม Edward ผู้เป็นที่รัก แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งหนุ่มหมาป่า Jacob ที่เข้ามาพัวพันในชีวิต Bella จนทำให้เกิดเหตุการณ์หลายอย่างๆ ที่ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้น ทางด้าน Vampire สาว Victoria ก็ยังคงตามล่า Bella จนถึงที่สุดพร้อมกับกองทัพ Vampires ที่ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่อย่างน่ากลัว….เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อ คงไม่ต้องเล่าให้เสียเวลาเพราะเชื่อว่าสาวกทุกคนคงรู้อยู่แล้ว
Eclipse เป็นภาพยนตร์ที่มีกลิ่นแปลกไปกว่าสองภาคที่ผ่านมา นั่นคงเป็นเพราะการคุมบังเหียนของ David Slade ผู้กำกับที่เข้ามารับทำหน้าที่ในภาคนี้ ด้วยความที่เนื้อหายังคงเหมือนในต้นฉบับ (ตามที่ Stephenie Meyer เคยขอไว้) แต่ในตัวหนังสามารถทำให้ผู้ชมรับรู้ได้หลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น เช่น ลำดับเรื่องราวมีการเรียบเรียงและสลับตอนใหม่ทำให้กระชับ มีความต่อเนื่องดีกว่า New Moon แม้แต่กระทั่งฉากโคลสอัพ หรือแบล็คกราวน์ยังดูสวยงามมากขึ้นกว่าก่อน และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ฉากเปลือยท่อนบนของหนุ่ม Jacob ที่แสดงให้เห็นถึงมัดกล้ามที่มาพร้อมกับความเข้มเกินจะทนของพ่อหมาป่าคนนี้ จนทำให้สาวๆ หลายคนในโรงหนังถึงขั้นต้องกรีดร้องด้วยเสียงต่างๆ นานา เชื่อว่าคงถูกอกถูกใจต่อผู้ชมหลายๆ ท่านยิ่งนัก
Eclipse ใช้ทุนสร้าง 68 ล้านเหรียญโดยประมาณ แต่ตัวหนังแสดงให้เห็นศักยภาพที่มากกว่าทุนสร้าง และเชื่อว่าเรื่องนี้น่าจะยังเป็นหนังภาคต่ออีกเรื่องที่จะโกยรายรับได้อีกมากโข ในภาพรวมตัวหนังสร้างสิ่งดึงดูดผู้ชมได้ค่อนข้างดี แต่ก็มีในบางอย่างที่ดูขาดๆ ไปบ้าง เช่น หนังพยายามจะเล่าทุกเหตุการณ์ตามหนังสือ จนทำให้ความสำคัญของตัวละครหลายๆ ตัวลดลง เพราะต้องกระจายความสำคัญไปหาสิ่งอื่นๆ มากขึ้น อาจเป็นเพราะหนังมีเวลาจำกัดด้วย แต่ก็เชื่อว่าคงไม่ใช่ปัญหาในการสื่อเรื่องราวของหนังต่อผู้ชมมากซักเท่าไร เพราะผู้ที่เข้าชมคงรู้เรื่องราวมาก่อนแล้ว แต่กลับอยากจะรู้ว่าภาพที่เกิดขึ้นในโรงภาพยนตร์จะคล้ายกับภาพในมโนคติของแต่ละคนหรือไม่มากกว่า
Eclipse มีรายละเอียดในหลายๆ อย่างมากขึ้นทั้งตัวละคร และองค์ประกอบอื่นๆ เช่น ในภาคนี้เราจะเห็นได้ว่า Bella มีพัฒนาการในเรื่องความรักมากขึ้นกว่าภาคแรก และ Edward ยิ่งดูยิ่งสุขุมลุ่มลึกยังกับพ่อพระมาโปรด ส่วน Jacob มีส่วนร่วมในหนังเยอะขึ้นจนทำให้เกือบจะเป็นตัวเด่นของภาคนี้เลยก็ว่าได้ ตัวหนังนำเสนอถึงความเปลี่ยนแปลงของแต่ละคนได้ดี แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือ “ความโรแมนติกของคู่รักระหว่างมนุษย์กับผีดิบ” ตรงจุดนี้ต้องขอบอกว่าอาจจะทำคะแนนได้ไม่ดีเท่าภาคแรก ซึ่งจริงๆ แล้ววรรณกรรมชุดนี้ยังคงเป็นแนว ”Paranormal Romance” ยืนพื้น แต่ก็เป็นเพราะว่าหลายๆ อย่างใน New Moon ค่อนข้างจะเอื่อย ในภาคนี้ ผู้กำกับอาจจะอยากให้มีความสนุกมากขึ้น เลยทำให้ความโรแมนติกขาดหายไปหน่อย ในเรื่องรายละเอียดของบรรยากาศ ส่วนตัวแล้วชอบมากเพราะเล่าความเป็นเมือง Forks และ Seattle ได้อย่างสวยงามที่มาพร้อมท้องฟ้าอึมครึมกับฝนที่ตกเบาๆ แบบพอแฉะ และต้นไม้ที่เขียวขจีตลอดทิวแถว ภาคนี้ยังมีดีอยู่ที่ตรง Score เพลง และ Sound track ของหนังที่เพิ่มความสนุกในหลายๆ ฉากให้เข้มข้นซึ่งถือว่าทำได้ดีกว่า New Moon เพราะหลายๆ เพลงที่ใช้ประกอบฟังแล้วค่อนข้างจะติดหูใช้ได้ เลยอยากจะแนะให้สาวกทั้งหลายลองหามาฟังบ้างถ้าเกิดอาการชมแล้วยังไม่จุใจ
Eclipse หนังรักวัยรุ่นที่ผันตัวมาเป็นแนวกึ่งแอ็คชั่น แสดงให้หลายๆ คนได้เห็นว่ายังคงมีพัฒนาการที่ก้าวเดินหน้าแม้จะยังไม่มาก แต่ก็เชื่อว่าสาวกหลายๆ ท่านพอชมภาคนี้จบก็ยิ่งถามถึงภาค Breaking Dawn มากยิ่งขึ้น แม้ว่าจะนานเท่าไรก็จะรอ สุดท้าย Eclipse แม้จะโดนใจใครหลายๆ คน หรือไม่ถูกใจใครหลายๆ ท่าน ก็ยังเป็นภาพยนตร์ที่ชมได้เรื่อยๆ พร้อมกับความผิดธรรมชาติของมนุษย์ หมาป่า และผีดิบ ซึ่งถือว่านำเสนอออกมาได้ค่อนข้างดีแม้จะยังไม่ดีที่สุด
ท้ายสุดก็ได้แต่หวังว่า Breaking Dawn จะเปิดตัวพร้อมกับความแปลกใหม่ในการนำเสนอ….ไม่รู้ว่าจะมากขึ้นหรือน้อยลง ก็คงต้องลุ้นต่อกันปีหน้าฟ้าใหม่
ขอได้รับความขอบคุณ
Leave a comment